Google AdWords: Keyword Tool

เครื่องมือค้นหาคำที่เหมาะสำหรับเนื้อหา Keyword Tool เป็นเครื่องมือคำค้นที่จะได้คำค้นที่เหมาะสมหรือคำค้นใหม่ โดยการเลือกที่จะพิมพ์รายละเอียดของคำหรือข้อความ หรือแม้กระทั้งพิมพ์ที่อยู่ของเว็บไซต์ สำหรับเงื่อนไขซึ่ง Google ไม่รับประกันว่าคำค้นที่ได้จะช่วยให้เว็บไซต์หรือ Campaign มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และระบบไม่รองรับคำสงวนต่างๆ ที่ผู้ใช้ระบุ ซึ่งความรับผิดชอบต่อคำค้นต่างๆ ตกอยู่กับผู้ใช้งาน โดยต้องรับผิดชอบต่อข้อความที่ละเมิดต่อกฏหมายข้อบังคับต่างๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ของการค้นหาได้ เริ่มต้น Google กำหนดเป็นภาษา English, Unitied State มาเริ่มต้นในการใช้งาน Google AdWords Keyword Tool กันดังนี้

1. ผู้ใช้ต้องเลือกวิธีการค้นหาคำค้นที่ต้องการจาก 2 ตัวเลือกคือ
• Descriptive words or phrases จากคำหรือข้อความ เช่น green tea เป็นต้น ซึ่งผู้ใช้สามารถพิมพ์คำย่อได้ แต่ต้องกำหนดตัวเลือก Use synonyms
• Website content จากเนื้อหาของเว็บไซต์ เช่น www.example.com/product?id=74893 ด้วยการพิมพ์ URL สามารถให้เครื่องมือค้นหาคำค้นที่เหมาะสมสำหรับหน้าอื่นๆ (Google จะค้นหาจาก Link ที่มีบนหน้าให้ด้วย)
2. และทั้ง 2 รูปแบบสามารถกรองคำที่ไม่ต้องการให้ใช้โดยเพิ่ม Filter my results พิมพ์ข้อความลงไป (1 คำต่อ 1 บรรทัดนะ ไม่อย่างนั้นไม่กรองให้) และเพิ่มเติมด้วย 2 ตัวเลือก ตัวเลือกแรกคือ อย่าแนะนำคำค้นให้เพราะอาจจะมากเกินไป และตัวเลือกที่ 2 คือ สามารถมีคำค้นที่มีเนื้อหาเฉพาะผู้ใหญ่ เพราะเนื้อหามีรูปแบบดังกล่าว
3. ตามด้วยเครื่องมือสำหรับใช้คำค้นที่ได้บนเว็บไซต์ของ Google ซึ่งสามารถบันทึกเป็นไฟล์ TEXT หรือ CSV แต่ต้องเป็นสมาชิกของ Google AdWords เพราะว่าการโฆษณาบน Google ต้องอาศัยเครื่องมือที่ว่านี้แหละ

แบบแรกผู้ใช้ต้องมีคำหรือข้อความในใจอยู่แล้ว ซึ่งควรเป็นผู้มีประสพการณ์มาพอสมควร สำหรับมือใหม่แนะนำให้ใช้แบบที่ 2 เพราะจะช่วยให้เราได้ Idea จากเครื่องมือแล้ว ติดตามผลดูว่าคำไหมใช้ได้ผลแล้วค่อยขยายผลจากคำเหล่านี้

สำหรับผลลัพธ์

ผลที่ได้จากเครื่องมืออยู่ในรูปแบบตารางให้เราดูง่ายๆ โดยเรียงจากซ้ายมาขวาดังนี้

• Keywords เป็นคำค้นที่เราสามารถนำไปใช้ได้
• Advertiser Competition เป็นอัตราความหนาแน่นของคู่แข่งเว็บไซต์อื่นๆ หากเว็บไซต์ยังไม่ดังมากควรใช้คำค้นที่ไม่มีคู่แข่ง หรือคู่แข่งน้อยจะดีกว่า
• Local Search Volume: June เป็นอัตราการค้นหาจากคำค้นภายในประเทศประจำเดือนล่าสุด ซึ่งควรจะใช้คำค้นที่มีการเรียกบ้างจะดีกว่า เพราะใช้ไปอาจไม่มีใครค้นเอา
• Global Monthly Search Volume เป็นอัตราการค้นหาจากคำค้นทั่วโลก ควรดูจากยอดค้นหาหลักหมื่นขึ้นนะ จะได้มีค้นหาเจอเร็วขึ้น
• Match Type ใช้สำหรับ Google AdWords ในการเอาไปใช้ต่อยอดบน Google

ฉลาดอย่างนี้ มีหรือจะไม่ใช้กันละ คลิกเลยที่นี่ Google AdWords: Keyword Tool Download

จากประสพการณืของผู้เขียนแนะนำว่า

1. หากเนื้อหาเป็น Flash จะไม่สามารถใช้เครื่องมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยการปรับปรุงเนื้อหาหรือเทคนิคการเขียนเว็บไซต์ให้ Flash สามารถค้นหาได้ (สำหรับเทคนิค หากมีผู้สนใจมากๆ ทางผู้เขียนจะนำเนื้อหามาแนะนำเบื้องต้นให้)
2. ความสำคัญอยู่ที่การผลิตเนื้อหาของเว็บไซต์ให้ตรงกับคำค้นด้วย เนื่องจากปัจจุบัน Search Engine มี Algorithm ในการกลั้นกรองว่าข้อมูลถูกต้องตรงกันหรือไม่ จากพบว่าไม่เกี่ยวข้องกันจะกระทบต่อ Pagerank ของเว็บไซต์ ทำให้อันดับตกต่ำอีกต่างหาก